iPhone 13 ระบบกล้องคู่ที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone พร้อมชิป A15 Bionic ที่เร็วสุดขั้ว, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น แบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่, ดีไซน์ที่ทนทาน, 5G ที่เร็วสุดแรงและจอภาพ Super Retina XDR ที่สว่างยิ่งขึ้น

iPhone 15 Dynamic Island มาอยู่บน iPhone 15 แล้วทำให้คุณไม่พลาดเรื่องราวต่าง ๆ เสริมด้วยกล้องหลัก 48 MP ถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงได้แบบง่าย ๆ ทั้งยังมีเทเลโฟโต้ 2 เท่าอีกด้วย และเปลี่ยนช่องเชื่อมต่อเป็น USB-C มาในดีไซน์แบบกระจกแต่งสีและอะลูมิเนียมที่ทนทาน

iPhone 16 ขอแนะนำตัวควบคุมกล้องให้คุณเข้าถึงเครื่องมือของกล้องได้อย่างรวดเร็ว และพบกับปุ่มแอ็คชั่น แค่กดค้างไว้ก็เรียกใช้สิ่งที่คุณต้องการได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นไฟฉาย เสียงบันทึก โหมดปิดเสียง และอีกมากมาย

iPhone 16e ครั้งแรกกับชิปโมเด็ม Apple C1 มาพร้อมกล้อง Fusion 48MP ให้คุณได้ถ่ายภาพความละเอียดสูงเป็นพิเศษ รวมทั้งแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานจุใจใช้งานได้นานที่สุดใน iPhone ขนาด 6.1 นิ้วที่ให้คุณมีเวลาส่งข้อความ ท่องเว็บ และยังทำนั่นทำนี่ได้มากขึ้น

iPhone 16 Plus ขอแนะนำตัวควบคุมกล้องให้คุณเข้าถึงเครื่องมือของกล้องได้อย่างรวดเร็ว และพบกับปุ่มแอ็คชั่น แค่กดค้างไว้ก็เรียกใช้สิ่งที่คุณต้องการได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นไฟฉาย เสียงบันทึก โหมดปิดเสียง และอีกมากมาย

iPhone 17 ประทับใจยิ่งกว่า ทนทานยิ่งขึ้น ด้วยจอภาพ ProMotion ขนาด 6.3 นิ้ว Ceramic Shield กล้องหลัง 48MP ทั้งหมด กล้องหน้า Center Stage ชิป A19 และอีกมากมาย iPhone 17 มาใน 5 สีสันสุดสวยและด้านหน้าแบบ Ceramic Shield 2 ที่ทนการขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า

iPhone Air iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยจอภาพขนาด 6.5 นิ้ว Ceramic Shield ที่ทนทานทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ชิป A19 Pro ระบบกล้อง Fusion 48MP และกล้องหน้า Center Stage ดีไซน์ที่สดใหม่พร้อม Liquid Glass ทั้งสวยงาม เพลิดเพลิน และรู้สึกคุ้นเคยในทันที มาพร้อมหน้าจอล็อคที่มีชีวิตชีวา พื้นหลังที่ปรับแต่งได้ แถมยังมีแบบสำรวจในแอปข้อความ การคัดกรองสายโทร และอีกมากมาย

iPhone 17 Pro คือ iPhone ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมาพร้อมจอภาพขนาด 6.3 นิ้วที่สวยสด, ดีไซน์แบบอะลูมิเนียมชิ้นเดียว, ชิป A19 Pro, กล้องหลัง 48MP ทั้งหมด และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมา

iPhone 17 Pro Max คือ iPhone ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมาพร้อมจอภาพขนาด 6.9 นิ้วที่สวยสด ดีไซน์แบบอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ชิป A19 Pro กล้องหลัง 48MP ทั้งหมด และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Apple Pencil (USB-C) เหมาะสมลงตัวที่สุดสำหรับสเก็ตช์ภาพ จดโน้ต ทำเครื่องหมายบนเอกสาร และอีกมากมาย พร้อมมอบความแม่นยำที่ลึกลงไปถึงระดับพิกเซล แถมยังมีความหน่วงต่ำ และไวต่อการเอียง คุณจึงใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติไม่ต่างจากดินสอจริงๆ Apple Pencil (USB-C) ยึดติดกับตัวเครื่องด้วยแม่เหล็ก จับคู่และชาร์จผ่าน USB-C

Apple Pencil (รุ่นที่ 1) ให้คุณได้ขีดเขียนลายเส้นด้วยน้ำหนักที่ต่างกัน แรเงาบางๆ และสร้างสรรค์ลวดลายศิลปะที่สวยงามได้หลากหลายเหมือนใช้ดินสอทั่วไป แต่ให้ความแม่นยำที่ลึกลงระดับพิกเซล เหมาะสำหรับผู้ที่มีใจรักด้านศิลปะ นักวาดรูป วาดๆ ขีดๆ เขียนๆ ออกแบบสร้างสรรค์ลวดลายศิลปะที่สวยงามได้หลากหลาย คุณจึงใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติไม่ต่างจากดินสอจริงๆด้วย Apple Pencil (รุ่นที่ 1)

Apple Pencil (รุ่นที่ 2) พร้อมมอบความแม่นยำที่ลึกลงไปถึงระดับพิกเซล และมีความหน่วงในระดับต่ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้วาดรูป สเก็ตช์ภาพ ระบายสี จดโน้ต ทำเครื่องหมายใน PDF และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยการใช้งานที่ง่ายและเป็นธรรมชาติเหมือนดินสอจริงๆ ให้คุณเปลี่ยนเครื่องมือได้โดยไม่ต้องจรดปลายลงบนหน้าจอ เพราะมีพื้นผิวระบบสัมผัสที่ใช้งานง่ายซึ่งรองรับการแตะสองครั้ง

Apple Pencil Pro เพิ่มความสามารถสุดมหัศจรรย์มาอีกมากมายที่ช่วยถ่ายทอดไอเดียของคุณให้ออกมาโลดแล่น พร้อมด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ สุดล้ำที่ให้คุณทำเครื่องหมาย จดโน้ต และสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย

อะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB ขนาดเล็กกะทัดรัดและพกพาสะดวกนี้สำหรับชาร์จ iPhone, iPad หรือ iPod ที่มีช่องต่อ Lightning ได้ทั้งที่บ้าน ระหว่างเดินทาง หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ หรือคุณจะต่ออะแดปเตอร์เข้ากับอุปกรณ์ของคุณโดยตรงผ่านช่องต่อ Lightning ก็ได้

อะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB-C ขนาด 20 วัตต์ สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือระหว่างเดินทาง เพียงจับคู่กับ iPhone 8 หรือใหม่กว่าเพื่อชาร์จแบบเร็วได้ถึงระดับ 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที¹ หรือจับคู่กับ iPad Pro และ iPad Air เพื่อประสิทธิภาพการชาร์จขั้นสูงสุด ใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่สามารถใช้งาน USB-C ได้ย

อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาดกะทัดรัดแบบพอร์ตคู่ขนาด 35 วัตต์ ให้คุณชาร์จอุปกรณ์สองชิ้นพร้อมกันได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือขณะเดินทาง ทั้งยังพกพาและจัดเก็บได้ง่ายด้วยขนาดที่กะทัดรัดและขาแบบพับได้ Apple ขอแนะนำให้คุณใช้งานกับ MacBook Air และคุณยังสามารถใช้งานกับ iPhone, iPad, Apple Watch และ AirPods ได้อีกด้วย

อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาดกะทัดรัดแบบพอร์ตคู่ขนาด 35 วัตต์ ให้คุณชาร์จอุปกรณ์สองชิ้นพร้อมกันได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือขณะเดินทาง ทั้งยังพกพาและจัดเก็บได้ง่ายด้วยขนาดที่กะทัดรัดและขาแบบพับได้ Apple ขอแนะนำให้คุณใช้งานกับ MacBook Air และคุณยังสามารถใช้งานกับ iPhone, iPad, Apple Watch และ AirPods ได้อีกด้วย

สายชาร์จความยาว 2 เมตรในดีไซน์แบบถักเส้นนี้มาพร้อมหัวต่อ USB-C ทั้งสองด้าน จึงเหมาะสำหรับการ ชาร์จ ซิงค์ และถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ USB-C ด้วยกัน อีกทั้งยังรองรับการชาร์จได้สูงสุดถึง 240 วัตต์ และถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วระดับ USB 2 หรือใช้สายชาร์จ USB-C คู่กับอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ที่ใช้งานร่วมกันได้เพื่อชาร์จอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกสบายจากปลั๊กที่ผนัง และยังใช้ประโยชน์จากความสามารถในการชาร์จเร็วได้อีกด้วย อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C จำหน่ายแยกต่างหาก

ต่างจากหูฟังแบบวงกลมทั่วไป ดีไซน์ของ EarPods โดดเด่นด้วยรูปทรงของหู ซึ่งทำให้สวมใส่สบายกว่าหูฟังแบบเอียร์บัดทั่วไป ลำโพงภายใน EarPods ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพสูง EarPods (USB-C) ยังมีรีโมทในตัวที่ให้คุณปรับระดับเสียง ควบคุมการเล่นเพลงและวิดีโอ และรับหรือวางสายได้ด้วยการกดรีโมท